สีกันสนิมเป็นสีรองพื้นที่ใช้ทาลงบนวัสดุเพื่อให้สีเคลือบติดกับวัสดุนั้น มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการกันสนิม สีกันสนิมที่ดีจะช่วยไม่ให้เหล็กเกิดสนิมหรือช่วยชะลอระยะเวลาการเกิดสนิทให้ยืดออกไป อย่างที่เราทราบกันดีกว่าเหล็กนั้นมีราคาแพงมากขึ้นทุกวัน การใช้งานเหล็กอย่างคุ้มค่า คุ้มราคาก็ควรป้องกันไม่ให้เกิดสนิมขึ้นได้จะดีที่สุด ซึ่งสีกันสนิมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานเหล็ก
เมื่อเห็นความสำคัญของสีกันสนิมกันแล้ว คราวนี้เมื่อถึงคราวต้องเลือกซื้อสีกันสนิม สิ่งสำคัญที่ควรต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือเรื่องสารที่เป็นส่วนประกอบในสี ว่ามีคุณสมบัติในการกันสนิมได้ดีมากน้อยแค่ไหน
- สีรองพื้นกันสนิมอีพ็อกซี่ สีรองพื้นกันสนิมชนิดนี้เป็นสีที่มีคุณภาพสูงมาก สามารถทนทานต่อแรงเสียดทานและการขูดขีดได้เป็นอย่างดี ราคาจึงสูงตามไปด้วย มีส่วนผสมที่เป็นสารหลายชนิด แม้จะมีคุณภาพดี แต่ขั้นตอนการทำงานจะซับซ้อนขึ้นไปเนื่องจากผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้ผสมสีเอง ทั้งเรื่องส่วนผสมที่ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกัน อัตราส่วนในการผสมก็ต้องเป็นไปตามที่กำหนด ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะมีผลทำให้สีเกิดการผิดเพี้ยนหรือคุณสมบัติในการกันสนิมด้อยลง สีอีพ็อกซี่เหมาะใช้งานที่ต้องการความทนทานของสีเป็นพิเศษ ไม่ต้องคอยมาทาสีใหม่อยู่บ่อย ๆ ลักษณะงานที่ใช้สีอีพ็อกซี่ เช่น เครื่องบิน สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้ทะเล เสาเหล็กที่อยู่สูงหรืองานเหล็กที่มีราคาสูง เป็นต้น
- สีรองพื้นกันสนิมอัลขีดเรซิ่น เป็นสีรองพื้นกันสนิมชนิดที่นิยมใช้กันมาก เป็นผงสีเรดออกไซด์ กันสนิมได้ดีพอควร เนื้อสีมีความยืดหยุ่นดี ทนต่อแรงเสียดทานและการขูดขีดได้ดีพอควร สามารถใช้งานได้ตั้งแต่งานสีทั่วไปจนถึงงานคุณภาพปานกลาง ในขั้นตอนของการผสมสีนั้น ควรระวังไม่ผสมน้ำมันมากเกินไปเพราะจะทำให้สีที่ได้นั้นจางและแทบไม่เหลือสารกันสนิมอยู่เลย ไม่ควรใส่ส่วนผสมหลายอย่าง หากใช้น้ำมันสนก็ใช้น้ำมันสนผสมอย่างเดียวเลย หรือหากใช้ทินเนอร์ก็ให้ใช้ทินเนอร์ผสมอย่างเดียวเลย ถ้าต้องการให้สีกันสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทาสีจริงทับอีกครั้ง
- สีรองพื้นกันสนิมเรดเลด สีรองพื้นกันสนิมชนิดนี้เป็นสีที่ป้องกันการเกิดสนิมได้ดีมาก ราคามีตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงสูงขึ้นกับยี่ห้อ มักมีการใส่ส่วนผสมประเภทตะกั่วและดีบุกในรูปของสารละลายลงไปด้วยเพื่อทำให้สีสามารถกันสนิมได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีการผสมสารเพิ่มคุณภาพอื่น เช่น สารต่อต้านการเกิดสนิม ผงสีชนิดเรดเลดสีส้ม สารเพิ่มความแข็งแรงความฟิล์มสี สารเพิ่มการยึดเกาะของสี ทำให้สีชนิดนี้มีประสิทธิภาพดีเหมาะในการใช้งานอุตสาหกรรม งานโครงสร้างขนาดใหญ่และงานจักรกล
ที่จริงแล้วสีกันสนิมยังมีอีกหลากหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันก็เป็น 3 ประเภทข้างต้น การเลือกสีกันสนิมอย่างถูกต้องและให้เหมาะกับงานนั้น ควรเลือกที่มีประสิทธิภาพในการกันสนิมได้สูงสุดจึงจะป้องกันการเกิดสนิมได้จริง จึงจะคุ้มค่ากับงบประมาณ ค่าแรงและเวลาที่ต้องเสียไปกับการทำงาน สิ่งสำคัญที่จะลืมไปไม่ได้ คือ ควรผสมและใช้สีตามขั้นตอนที่ระบุไว้บนฉลากเท่านั้น เพื่อให้สีที่ได้มีคุณภาพดีตรงกับการใช้งาน โดยข้อแนะนำในการใช้สีนั้น มีดังนี้
- เตรียมพื้นผิวให้แห้งและไม่มีสนิม สีเก่า หรือคราบน้ำมัน
- ทาหรือพ่นให้บางในชั้นแรก ตามด้วยการทาสีทับหน้า เว้นระยะการทาหรือพ่นทับในแต่ละชั้นตามที่ฉลากกำหนด จึงจะได้สีที่เรียบเนียนเสมอกัน
- สีกันสนิมต่างยี่ห้อกัน ห้ามใช้ผสมกัน ยกเว้นสีจริงที่ทาทับหน้าใช้คนละยี่ห้อได้ แต่ไม่ควรนำมาผสมกัน
- สำหรับสีที่เตรียมผสมไว้ใช้งาน ควรใช้ให้หมดในครั้งเดียว ไม่เก็บไว้สำหรับงานต่อไป
- สีกันสนิมที่หมดอายุแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ เพราะสารเคมีที่ผสมอยู่จะเสื่อมสภาพไป
- ห้ามนำสีไปผสมกับส่วนผสมอื่นที่ผู้ผลิตไม่ได้กำหนดไว้ เลือกส่วนผสมตามเบอร์ที่กำหนด เช่น เบอร์ทินเนอร์
- เลือกใช้สีรองพื้นกันสนิมสีอ่อน ในกรณีที่ต้องการทาสีจริงเป็นสีอ่อน เพื่อป้องกันการผิดเพี้ยนหรือสีจริงดูหมอง
- สีกันสนิมที่ดีจะไม่ตกตะกอนหรือมีลักษณะแข็ง เมื่อผสมน้ำมันควรผสมง่ายเข้ากันได้เร็ว
การรู้จักเลือกซื้อสีกันสนิมอย่างถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานและมีขั้นตอนในการใช้งานที่ถูกวิธี จะทำให้สีกันสนิมนั้นเกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันวัสดุอย่างเหล็กที่มีราคาแพงไม่ให้เกิดสนิมและให้ใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่าด้วยเช่นกัน
ความเห็นล่าสุด